วันศุกร์ที่ 10 สิงหาคม พ.ศ. 2555

แอพพลิเคชั่นรักบ้านเกิด ตอบทุกโจทย์สังคมไทย


บุญชัย เบญจรงคกุล เจ้าพ่อโทรคมนาคม วิพากษ์พลังโซเชียลเน็ตเวิร์ก "เพราะทุกวันนี้ สมาร์ทโฟน และแท็บเล็ต มันเล่นง่าย ทุกไลฟ์สไตล์ในชีวิตคนทุกระดับ จึงสามารถมารวมกันได้...ธุรกิจ เพื่อสังคม ธรรมะ เทคโนโลยี จึงไม่ใช่เรื่องแปลก ที่วันนี้ผมจะติด Line" ด้วยเหตุนี้ จึงคิดผุด แอพฯ สำนึกรักบ้านเกิด ตอบทุกโจทย์ให้สังคมไทย พร้อมตั้งเป้าคนใช้ 10 ล้านคน...
"ชีวิตผมไม่เคยประมาท ที่ถอยมาตั้งหลักเพื่อรอดูการเปลี่ยนแปลงเทคโนโลยี พร้อมทำงานเพื่อสังคม
โดยคุณบุญชัยเปิดใจกับไทยรัฐออนไลน์ ย้อนอดีตถึงสาเหตุที่ตัดสินใจวางมือธุรกิจโทรคมนาคมเมื่อ 7 ปีก่อนว่า ไม่ได้เกิดจากความเบื่อหน่ายในธุรกิจ แต่เป็นการถอยออกมาตั้งหลัก พร้อมๆ กับรอดูการเปลี่ยนแปลงของเทคโนโลยี ซึ่งระยะเวลาอาจนานกว่าคนทั่วไปสักหน่อย หากเปรียบเทียบนิสัยการตัดสินใจครั้งนี้ คงเปรียบได้กับเรื่องสามก๊ก ตอนที่สุมาอี้เห็นขงเบ้งดีดพิณอยู่บนกำแพงเมือง แม้ว่าฝ่ายตัวเองยกทัพเข้าไปอาจจะได้เปรียบมากกว่า แต่เพื่อความปลอดภัย หากมีสัญญาณที่ไม่น่าไว้วางใจ ก็คิดว่าควรถอยไปตั้งหลัก เพื่อดูสถานการณ์ให้แน่ชัดก่อนที่จะตัดสินใจอะไรลงไปจะดีกว่า

สนับสนุนสำนึกรักบ้านเกิด ผลักดันกลุ่มแมส ให้เข้าถึงเทคโนโลยี ยกคุณภาพชีวิต"

ซึ่งหลังจากที่วางมือ ทำให้มีเวลาใคร่ครวญในเรื่องต่างๆ และจากประสบการณ์ที่เคยใช้ชีวิตอยู่ในต่างประเทศมานานกว่า 8 ปี และพบว่าไม่มีที่ไหนมีความสุขเหมือนอยู่ที่เมืองไทย จึงเป็นจุดเริ่มต้นแนวคิดโครงการสำนึกรักบ้านเกิด ซึ่งคุณบุญชัย ยอมรับว่า ชอบปรับเปลี่ยนแนวคิดในการทำงานอยู่เสมอ แต่แนวคิดที่ต้องการให้ทุกคนสำนึกรักบ้านเกิดนั้นเป็นสิ่งเดียวที่เขายึดถือและมุ่งมั่นมาโดยตลอด ประกอบกับเล็งเห็นความสำคัญของคนกลุ่มรากหญ้าที่มีจำนวนมากทั้งในประเทศไทยและทั่วโลก ทำให้เขาเรียกคนกลุ่มดังกล่าวว่า กลุ่มแมส และพยายามยกระดับคุณภาพชีวิตคนกลุ่มดังกล่าว ด้วยการให้โอกาสและสนับสนุนให้เข้าถึงเทคโนโลยี ซึ่งหน้าที่ในการสร้างโอกาสให้คนเหล่านี้ เศรษฐีคนนี้บอกแต่เพียงว่า สวรรค์เป็นผู้เลือกทางเดินให้เขา

"ทำงานเพื่อสังคม เงินก็ไม่ได้ กล่องก็ไม่มีให้"แม้หลายคนอาจมองว่าธุรกิจโทรคมนาคมที่เขาทำนั้น สามารถทำรายได้มหาศาล และขัดต่อภาพลักษณ์การทำงานเพื่อสังคม ซึ่งได้รับเพียงแค่กล่องรางวัล คุณบุญชัยชี้แจงแบบหมดเปลือกว่า งานเพื่อสังคมที่เขาทำนั้นไม่เคยได้รับกล่องสักครั้ง โดยส่วนตัวมองงานเพื่อสังคมในอีกมุมไม่ใช่นิยามของการทำงานเพื่อสังคมที่ต้องไม่หวังเงิน อาจเรียกได้ว่าเป็นนักสังคมสงเคราะห์แต่ตรงตัวที่สุดคือคำว่าคนทำงานเพื่อสังคม เหมือนฟรีแลนซ์โตปริส คือ พวกที่ไม่ปฏิเสธรายได้และผลประโยชน์ข้างเคียง แม้ว่าการทำธุรกิจกับกลุ่มแมสจะไม่ใช่เป้าหมายหลัก ก็เขาก็สนับสนุนการใช้รูปแบบทุนนิยมและสังคมนิยมควบคู่กัน เพื่อทำให้คนในสังคมมีความสุขและเปลี่ยนความสุขนั้นให้เป็นพลังขับเคลื่อนสังคมและประเทศต่อไป
"ราคา 5 พัน ไม่ไกลเกินเอื้อม ผุดเว็บ-แอพฯ ตอบทุกโจทย์สังคมไทย หวังคนใช้ 10 ล้าน!! "


ด้วยความเชื่อมั่นในพลังของโซเชียลเน็ตเวิร์ก บุญชัย ย้ำว่า เขาต้องการให้กลุ่มแมสในประเทศไทยได้มีโอกาสเข้าถึงอินเทอร์เน็ตมากขึ้น โดยเฉพาะการเข้าถึงผ่านสมาร์ทโฟนและแท็บเล็ตซี่งมองว่าเป็นเรื่องน่าสนใจอย่างมาก เพราะปัจจุบันราคาอุปกรณ์ดังกล่าวกำลังปรับลดลงอย่างต่อเนื่อง ทั้งยังสามารถใช้งานง่ายเพียงการสัมผัสหน้าจอแบบทัชสกรีน ทั้งของสมาร์ทโฟนและแท็บเล็ต โดยราคาแท็บเล็ตที่คาดว่าจะช่วยกระตุ้นให้คนกลุ่มแมสหันมาใช้เทคโนโลยีมากขึ้นน่าจะอยู่ที่ราคา 5,000 บาท

เศรษฐีใจบุญยังบอกอีกว่านี่เป็นครั้งแรกที่เปิดเผยกับสื่อมวลชนเกี่ยวกับโปรเจกต์ใหม่ ว่าเมื่อไม่นานนี้ได้ตัดสินใจทำอินเทอร์เน็ตทีวี ซึ่งเดิมทีคิดว่าจะต้องทำช่องทีวีดาวเทียมแต่เกิดติดขัดปัญหาบางประการ ต่อมาก็ได้เห็นปรากฏการณ์สารพัดกล่องที่เกิดขึ้นในช่วงฟุตบอลยูโร 2012 ซึ่งทำให้เกิดลังเลใจ แต่สุดท้ายก็ตัดสินใจทำอินเทอร์เน็ตทีวีบนมือถือ เนื่องจากเล็งเห็นโอกาสจากจำนวนผู้ใช้มือถือ ที่มีจำนวนถึง 70 ล้านคน

สำหรับรูปแบบเว็บไซต์ คือ เว็บสำนึกรักบ้านเกิด ซึ่งอยู่ระหว่างการพัฒนาให้มีรูปแบบทันสมัยและน่าสนใจมากขึ้นจากเดิม โดยจะเป็นการนำเสนอทั้งมาร์เก็ตเพลส ความบันเทิง และวิถีชีวิต โดยตั้งใจจะเปิดตัวภายในเดือน ธ.ค.ปีนี้ ด้วยรูปแบบหลักในการเป็นเว็บไซต์ซื้อขายสินค้าได้ระหว่างคนไทยและทั่วโลกแบบไม่คิดค่าสมาชิก เพื่อทำให้เกษตรกรไทยมีช่องทางในการค้าขายสร้างรายได้ ได้มากกว่าการค้าขายผ่านสวนหรือตลาด โดยภายในเว็บไซต์ดังกล่าวยังมีเนื้อหาอื่นๆ ครบครัน ทั้งข่าวสาร ภาพยนตร์ และความบันเทิงอื่นๆ เพื่อดึงดูดความสนใจจากทั้งผู้ขายและผู้ซื้อให้ติดตามเว็บไซต์สำนึกรักบ้านเกิดเป็นประจำด้วย

ส่วนแอพพลิเคชั่น ได้วางแผนว่าจะพัฒนาในรูปแบบหลากหลายประมาณ 7 แอพฯ โดยแอพพลิเคชั่น "สำนึกรักบ้านเกิด" นั้น บุญชัย เปิดเผยอย่างอารมณ์ดีว่า ตั้งเป้าผู้ใช้งานไว้ที่ 10 ล้านคน แต่เจ้าตัวก็ยอมรับว่าเป้าหมายดังกล่าวไม่ใช่เรื่องง่าย นอกจากนี้ยังมีแอพพลิเคชั่นอีกตัวที่น่าสนใจไม่แพ้กันซึ่งชื่อว่า "ฟาร์มทูมอลล์" ซึ่งจะช่วยให้เกษตรกรสามารถกำหนดราคาขายผลผลิตได้ง่ายขึ้น เนื่องจากแอพฯ ดังกล่าวจะระบุราคาขาย ณ ตลาดใหญ่ในหลายพื้นที่เอาไว้ ขณะเดียวกันผู้ใช้ก็สามารถรู้ราคาสินค้าต่างๆ ในห้างสรรพสินค้าได้จากข้อมูลในส่วนมอลล์ เรียกว่าเป็นการผสมผสานความทันสมัยแต่มีกลิ่นอายท้องถิ่นร่วม นอกจากนี้เขายังมีแนวคิดสนับสนุนให้แต่ละชุมชนมีเฟซบุ๊ก หรือสร้างกลุ่มในแอพพลิเคชั่นไลน์ เพื่อเป็นช่องทางในการสื่อสารระหว่างคนในชุมชนและผู้สนใจซื้อสินค้าด้วย

นอกจากแอพพลิเคชั่นในรูปแบบการซื้อขาย คุณบุญชัยยังคิดทำแอพฯ *1677 สำหรับช่วยเหลือผู้ปกครองและบุตรหลาน โดยอาศัยเครือข่ายวิทยุสมัครเล่นที่มีเดิม เพื่อช่วยประสานงานไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้ทันทีหากเด็กกดปุ่มขอความช่วยเหลือที่อยู่ภายในแอพฯ เมื่อมีเหตุร้ายหรืออันตราย ซึ่งสัญญาณดังกล่าวก็จะส่งตรงไปถึงพ่อแม่และผู้ช่วยเหลือ ถือเป็นสายด่วนช่วยดูแลความปลอดภัยของเด็กๆ

"เทคโนโลยีไม่ใช่เรื่องยาก แต่ระวังตกเป็นเหยื่อ!!"

เพราะบุญชัยมีแนวคิดว่าทุกวิถีชีวิตสามารถนำมารวมกันได้ ตั้งแต่เรื่องศาสนา ธรรมะ และเทคโนโลยี โดยนิสัยคนไทยมีความเชื่อเรื่องไสยเวทย์ ภพภูมิ หากต้องการชักชวนคนรุ่นใหม่ให้เข้าใกล้ธรรมะก็สามารถนำเทคโนโลยีไปผสมผสานได้ เช่น ให้คลิกเลือกวัดที่ต้องการจะบริจาคเงินเพื่อทำบุญ ส่วนช่องว่างที่หลายคนกังวลระหว่างคนรุ่นใหม่และธรรมะนั้น เขายืนยันว่าสามารถเข้ากันได้เป็นอย่างดี เห็นได้จากจำนวนผู้เข้าใช้ห้องสมาธิตึกเบญจจินดาในทุกวันอังคาร และที่ตึกดีแทคในทุกวันพฤหัสฯ ซึ่งหลังจากเคยรองรับได้ 40 คน ขณะนี้จำนวนผู้สนใจเพิ่มขึ้นเป็นหลักร้อย หลังเปิดโอกาสให้นิสิตจากจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยเข้าใช้งานได้

สำหรับประเด็นที่หลายคนกังวลว่าเด็กๆ ในมูลนิธิสำนึกรักบ้านเกิดซึ่งเป็นเด็กต่างจังหวัด จะไม่เท่าทันและอาจตกเป็นเหยื่อของเทคโนโลยีนั้น เศรษฐีใจบุญยอมรับอย่างไม่ปิดบัง ว่าพวกเขามีทั้งคนที่ตกเป็นเหยื่อและเป็นผู้ช่วยเหลือให้เหยื่อหลุดพ้น เขามั่นใจในศักยภาพของเยาวชนเหล่านั้นว่ามีความสามารถในการดำรงชีวิตให้อยู่รอดได้มากกว่าเด็กทั่วไป และยังเชื่อด้วยว่าพวกเขาจะกลายเป็นตัวอย่างของเด็กที่หันมาใช้เทคโนโลยีในการเชื่อมโยงและเรียนรู้การเสียสละเพื่อสังคม ท้ายที่สุดพวกเขาเหล่านั้นจะกลายเป็นคนธรรมดาที่มีโอกาสยกระดับชีวิตตนเองและเท่าทันวิถีโลก

"แอพฯ สุดฮิต Line ทำ บุญชัย ติดแชต!!"

นอกจากการเป็นนักธุรกิจ คนทำงานเพื่อสังคม หรือเศรษฐีใจบุญอย่างที่หลายคนรู้จัก บุญชัย ยอมรับว่าวันนี้แอพพลิเคชั่นแชตสุดฮิตอย่างไลน์ (Line) ได้เข้ามาแทรกซึมอยู่ในชีวิตประจำวันของเขาไปเสียแล้ว เขากล่าวอย่างอารมณ์ดีว่า ก่อนที่ไลน์จะเริ่มฮิต เขาเป็นเพียงคนหนึ่งที่ใช้เทคโนโลยีทั่วไปโดยเฉพาะโปรแกรมแชตทั้งหลายแต่ไม่ถึงกับต้องติดตาม เนื่องจากลูกๆ ส่วนใหญ่อยู่ที่ต่างประเทศ จึงอาศัยเทคโนโลยีเหล่านี้เพื่อติดต่อพูดคุยกันเป็นประจำ แต่เมื่อมีแอพพลิเคชั่นไลน์เข้ามา ทำให้เขาเกิดความรู้สึกว่าใช้งานได้หลากหลาย เมื่อสวดมนต์ทำบุญเสร็จก็จะถ่ายภาพและส่งเข้าไปยังกลุ่มครอบครัวเบญจรงคกุล ซึ่งมีสมาชิกราว 20 และรอดูว่าจะมีกี่คนที่เปิดอ่านภาพหรือข้อความเหล่านั้น เรียกว่าเทคโนโลยีไม่มีช่องว่างระหว่างอายุ.

อ้างอิงข้อมูลข่าวจาก : http://www.thairath.co.th/content/tech/282406

วันพุธที่ 8 สิงหาคม พ.ศ. 2555

เทคนิคการแก้อาการหมูท้องเสีย


สัมภาษณ์เกษตรกรคนเก่ง
คุณพะเยาว์ เบญจขันธุ์ เกษตรกรผู้เลี้ยงสุกร อยู่ที่บ้านปากพิงตะวันออก ตำบลวังน้ำคู้ อำเภอเมือง จังหวัดพิษณุโลก ได้ถ่ายทอดองค์ความรู้เกี่ยวกับการเลี้ยงหมู โดยเฉพาะการแก้ปัญหาหมูท้องเสีย ปกติแล้วอาการท้องเสียจะเกิดขึ้นได้กับหมูทุกวัย คุณพะเยาว์ได้แนะนำการแก้อาการท้องเสียโดยใช้กล้วยดิบ และใบฝรั่ง สามารถแก้ปัญหาท้องเสียในหมู ให้หายปกติได้ภายใน 3 วัน สามารถลดค่าใช้จ่ายในการซื้อยา โดยการนำภูมิปัญญามาใช้ให้เกิดประโยชน์

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่

คุณพะเยาว์ เบญจขันธ์
80/1 หมู่ที่ 2 ตำบวังน้ำคู้ อำเภอเมือง จังหวัดพิษณุโลก
โทร.083-4120318
สถานีวิทยุร่วมด้วยช่วยกัน จ.พิษณุโลก FM 92.50 MHz.
57/12 ถนนพระองค์ดำ ตำบลในเมือง อำเภอเมือง จังหวัดพิษณุโลก 65000
และสถานีวิทยุร่วมด้วยช่วยกันเครือข่ายทั่วประเทศ
โทร. 055-212445-6 , 081-5339770 คุณวิษณุ นึกอนันต์ เจ้าหน้าที่ Farmer Info จ.พิษณุโลก , ระบบ DTAC โทรฟรี 1677
http://www.rd1677.com/rd_pitsanulok/index.php
E-mail : inn_radio@hotmail.com และ dfm92.5@hotmail.com

อ้างอิงคลิปวีดีโอที่ : http://www.youtube.com/watch?v=3VAoGICxWg0&feature=youtu.be

วันพุธที่ 1 สิงหาคม พ.ศ. 2555

กิจกรรมเผยแพร่องค์ความรู้การเกษตรกับบริการ *1677


งานเกษตรนเรศวร ครั้งที่ 10 มหาวิทยาลัยนเรศวร จังหวัดพิษณุโลก คณบดีคณะเกษตรศาสตร์ ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม  โดยผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.ชนินทร์ อัมพรสถิร เป็นประธานในการกล่าวเปิดงานเกษตรนเรศวร ครั้งที่ 10 พร้อมกับเสวนาปาฐกถาพิเศษในเรื่อง “ความมั่นคงทางอาหารภายใต้ภาวะภัยพิบัติทางธรรมชาติ”โดยมีนิสิต นักศึกษาคณะคณาจารย์ผู้ทรงคุณวุฒิ และประชาชนเดินทางเข้าร่วมในพิธีเปิดงานในครั้งนี้อย่างคับคั่ง โดยงานเกษตรนเรศวร ครั้งที่ 10 ในครั้งนี้จัดขึ้นระหว่างวันที่ 24 – 29 ก.ค. นี้ ณ คณะเกษตรศาสตร์ มหาวิทยาลัยนเรศวร

นอกจากนี้ภายในงานได้มีการจัดให้มีการการประชุมวิชาการทางการเกษตร รวมถึงการจัดนิทรรศการทางการเกษตร บู๊ทแสดงตัวอย่างศัตรูพืชที่ส่งผลกระทบต่อผลผลิตที่จะได้รับของเหล่าเกษตรกรซึ่งทำให้รายได้ที่จะได้รับนั้นลดน้อยลงไปและจะมีการแข่งขันวิชาการของนักเรียน นักศึกษา การจัดฝึกอบรมให้แก่เกษตรกรซึ่งจะได้นำความรู้ที่ได้รับการถ่ายทอดไปสู่การพัฒนาผลิตภัณฑ์สินค้าของคนในชุมชน

สำหรับสถานีวิทยุร่วมด้วยช่วยกัน จ.พิษณุโลก FM 92.5 MHz.ร่วมกิจกรรมออกบูธ *1677 ทางด่วนข้อมูลการเกษตร เผยแพร่บริการทางเลือกสำหรับเกษตรกรและผู้สนใจ ข้อมูลข่าวสารด้านการเกษตรสำหรับบริการ SMS ฟรี ระบบดีแทค ตั้งแต่วันที่ 24-29 กรกฎาคม 2555 สนใจสมัครบริการกด *1677 ทางด่วนข้อมูลการเกษตร แล้วคุณจะรู้ทุกเรื่องด้านการเกษตร

วิธีการโพสต์ข้อมูลสินค้าในเว็บไซด์รักบ้านเกิด


www.rakbankerd.com เป็นเว็บไซด์สื่อกลางที่เปิดพื้นที่ให้ทุกท่านติดต่อซื้อขายได้อย่างอิสระ เปิดกว้างสำหรับเกษตรกร กลุ่มวิสาหกิจชุมชน กลุ่มธุรกิจ SME , SML , OTOP หรือผู้ผลิตสินค้าที่สนใจสร้างตลาดบนโลกออนไลน์ในเว็บไซด์ "รักบ้านเกิด.คอม" เพียงลงทะเบียนและโพสต์สินค้ากับเรา ฟรี! ไม่มีค่าใช้จ่ายใดๆ สมัครสมาชิกได้วันนี้

สำหรับท่านที่ใช้โทรศัพท์ในระบบ DTAC สามารถรับข้อมูล SMS ข่าวสารข้อมูลด้านการเกษตรได้ฟรี เพียงกด *1677

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่
สถานีวิทยุร่วมด้วยช่วยกัน จ.พิษณุโลก FM 92.50 MHz.
57/12 ถนนพระองค์ดำ ตำบลในเมือง อำเภอเมือง จังหวัดพิษณุโลก 65000
และสถานีวิทยุร่วมด้วยช่วยกันเครือข่ายทั่วประเทศ
โทร. 055-212445-6 , 081-5339770 ( คุณวิษณุ นึกอนันต์ เจ้าหน้าที่ Farmer Info จ.พิษณุโลก ) , ระบบ DTAC โทรฟรี 1677
http://www.rd1677.com/rd_pitsanulok/index.php
E-mail : inn_radio@hotmail.com และ dfm92.5@hotmail.com

วันจันทร์ที่ 30 กรกฎาคม พ.ศ. 2555

เทคนิคการเพิ่มผลผลิตเห็ดขอนขาว


เห็ดขอนขาว เป็นเห็ดที่ขึ้นได้เองตามธรรมชาติ ตามขอนขาวไม้ที่ผุพังในเขตป่าร้อนชื้น คนนิยมบริโภคกันมากเพราะรสชาดดี ปัจจุบันเกษตรกรหันมาสนใจการเพาะเห็ดชนิดนี้กันมากขึ้น โดยวิธีการเพาะเห็ดขอนขาวในก้อนเชื้อเห็ด ซึ่ง มีวิธีการเพาะและการดูแลรักษาไม่ยุ่งยาก
วิธีการเปิดเห็ดขอนขาวควรบ่มก้อนเห็ดในโรงพักอากาศท่ายเทได้สะดวก ไม่ร้อนมาก รอให้เส้นใยเดินเต็มครบกำหนด 40 วัน วันที่ 38 ควรขนก้อนเห็ดใส่โรงเปิดดอกเพื่อให้ก้อนเห็ดได้อากาศก้อนเห็ดก็จะรัดตัวมากว่าเดิม เหมือนเป็นการกระตุ้นให้ดอกเห็ดหน้าแรกออกได้ดี ลักษณะโรงเรือน ควรเป็นผ้าใบหรือพลาสติก และคลุมด้วยแสลม 80 เปอร์เซ็นไม่สูงหรือต่ำเกินไป
ขั้นตอนที่ 1. นำก้อนเห็ดที่ได้กำหนดเปิดมาเรียงที่โรงเปิดดอกเรียบร้อยแล้ว ยังไม่ต้องปิดโรงเรือน กันฝนกับแสงแดดก็พอ
ขั้นตอนที่ 2. แกะกระดาษหนังสือพิมพ์ สำลี คอ และแคะเม็ดข้าวฟ่างออกให้หมดยังไม่ต้องรดน้ำ
ขั้นตอนที่ 3. ผ่านไปหนึ่งคืนก็มาถ่างปากถุง ถ้าเห็นก้อนที่มีลักษณะเป็นตุ่มหน้าก้อนก็สามารถกีดปากถุง (กีดเฉพาะที่เป็นตุ่มเท่านั้น) พอทำการกีดปากถุงก็ปิดโรงเรือน และรดน้ำให้มีความชื้น
ขั้นตอนที่ 4. รดน้ำวันล่ะ 4-5 รอบ/วัน ให้อุณหภูมิอยู่ที่ 32-38 องศา
ขั้นตอนที่ 5. รอประมาณ 7-8 ชม. หรือมากกว่าหรือน้อยกว่าแล้วแต่อุณหภูมิก็สามารถมาเก็บผลิดได้
ลักษณะดอกที่ควรเก็บหน้าแรกการเก็บผลผลิดควรเลือกเก็บดอกที่กำลังสวยโดยดูจากดอกตรงกลางมีรอยบุ๋มพอประมาณและ
เลือกเก็บเฉพาะดอกที่ได้ขนาดเท่านั้น ดอกไหนยังไม่ได้ก็ปล่อยไว้ก่อนอีประมาณ 3-4 ชมพอเก็บดอกรุ่นที่ 1 หมด ก็ทำการแต่งหน้าก้อน ทำความสะอาดโรงเรือน ควรทำความสะอาดทุกวัน ควรรดน้ำให้หน้าก้อนเห็ดเริ่มดำแล้วค่อยหยุดรดน้ำ 3-5 วัน ก่อนวันที่จะเริ่มรดน้ำควรฉีด จุลินทรีย์ จำพวก พลายแก้ว ป้องกันกำจัดเชื้อรา ไมโตรฟากัส (ป้องกันกำจัดไร) บีที (ป้องกันกำจัดหนอน) อาทิตย์ละ 2 ครั้ง หลังจากฉีดจุลินทรย์แล้ว ผ่านไปอีกวันก็ รดน้ำวันละ 3 ครั้งเช้ากลางเย็น ให้ความชื้นในโรงเรือนรักษาอุณหภูมิอยู่ที่ 35-38 องศา รอเก็บผลผลิต

สัมภาษณ์  : คุณจีรพรรณ อัมรินทร์  ฟาร์มเห็ดฟางทองการเกษตร
                 ผลิตและจำหน่าย ก้อนเชื้อเห็ด เชื้อเห็ด และบริการสอนอบรมหน่วยงานที่สนใจ
                 อยูที่ 159 หมู่ที่ 12 บ้านไร่ ต.ดอนทอง อ.เมือง จ.พิษณุโลก
                 โทร.081-5331033

วันศุกร์ที่ 27 กรกฎาคม พ.ศ. 2555

เทคนิคการเลี้ยงกบในนาข้าว


การเลี้ยงกบในนาข้าว เพื่อรายได้ ให้ชีวิตยั่งยืน

ขั้นตอนแรก : การเตรียมพื้นที่
1. ใช้มุ้งตาข่ายความสูงประมาณ 1 เมตร ล้อมรอบแปลงนา เพื่อป้องกันกบหนี และป้องกันศัตรูกบเช่นงู
2. ไถ คราด และปักดำนาตามปกติ โดยเว้นพื้นที่ห่างจากคันนาประมาณ 2 เมตร เพื่อให้สะดวกต่อการดูแล หรืออาจจะยกดินให้สูงขึ้น เพื่อเป็นที่ให้กบได้สัมผัสกับอากาศ และแสงแดดบ้าง
3. ใช้ทางมะพร้าว วางเป็นระยะๆ เพื่อให้กบได้ขึ้นไปอาศัยเป็นครั้งคราว และยังเป็นที่ให้อาหารด้วย

ขั้นตอนที่ 2 : การปล่อยลูกกบ
ในช่วงที่ปักดำนา ประมาณเดือน กรกฎาคม หลังจากข้าวตั้งตัวได้ และเริ่มแตกตอ (หลังปักดำประมาณ 15 -- 20 วัน) โดยจะปล่อยลูกกบที่มีอายุ 2 เดือน ในอัตรา 5,000 ตัว ต่อพื้นที่ 2 งาน

ขั้นตอนที่ 3 : การดูแล
1. ระยะแรกให้อาหารสำเร็จรูป (ชนิดเดียวกับอาหารปลาดุก) ในช่วงเย็นวันละ 2 กิโลกรัม เป็นเวลา 1 เดือน หลังจากนั้นให้ 3 -- 4 วันต่อครั้ง และ 7 วันต่อครั้ง โดยให้อาหารเป็นเวลา 3 เดือน ก็หยุดให้ นอกจากนี้ ที่มุมของแปลงนาติดไฟนีออนไว้ 3 จุด (จุดละ 1 หลอด) เพื่อล่อแมลงให้มาเล่นไฟแล้วตกลงไปเป็นอาหาร โดยจะเปิดไฟตั้งแต่ 6 โมงเย็น ถึง 6 โมงเช้าทุกวัน จนกว่าน้ำจะแห้ง
2. การควบคุมระดับน้ำจะควบคุมให้อยู่ในระดับความสูงประมาณ 20 -- 30 เซนติเมตร

ขั้นตอนที่ 4 : การจับกบ
หลังจากเก็บเกี่ยวข้าวตามปกติ (เดือนพฤศจิกายน) หลังจากนั้นก็ปล่อยให้น้ำแห้ง เมื่อน้ำแห้งกบจะจำศีล จะไม่กินอาหาร ใช้เวลาประมาณ 2 สัปดาห์ ซึ่งกบที่จำศีลจะมีไขมันค่อนข้างมาก แต่จะไม่มันเหมือนไขมันสัตว์ชนิดอื่นๆ เมื่อนำไปประกอบอาหารแล้วจะได้รสชาดที่อร่อย

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ www.rakbankerd.com  รักบ้านเกิด.คอม
ผลิตรายการโดย เจ้าหน้าที่ farmer info จ.พิษณุโลก
ร่วมด้วยช่วยกัน จ.พิษณุโลก เลขที่ 57/12 ถ.พระองค์ดำ ต.ในเมือง อ.เมือง จ.พิษณุโลก
โทร.055-212445 , 081-5339770 คุณวิษณุ
สายด่วนข้อมูลการเกษตร *1677 (เฉพาะระบบ DTAC เท่านั้น)